Bible

 

โฮเชยา 5

Studie

   

1 โอ ปุโรหิตทั้งหลาย จงฟังข้อนี้ โอ วงศ์วานอิสราเอลเอ๋ย จงสดับ โอ ราชวงศ์กษัตริย์ จงเงี่ยหูฟัง เพราะเจ้าทั้งหลายจะต้องถูกพิพากษา เพราะเจ้าเป็นกับอยู่ที่เมืองมิสปาห์ และเป็นข่ายกางอยู่ที่เมืองทาโบร์

2 พวกกบฏได้ฆ่าฟันให้ลึก แม้ว่าเราได้ตีสอนเขาเหล่านี้ทั้งหมด

3 เรารู้จักเอฟราอิม และอิสราเอลก็มิได้ปิดบังไว้จากเรา โอ เอฟราอิมเอ๋ย เจ้าเล่นชู้ อิสราเอลก็เป็นมลทิน

4 การกระทำของเขาไม่ยอมให้เขากลับไปยังพระเจ้าของเขา เพราะจิตใจที่เล่นชู้อยู่ในตัวเขา เขาจึงไม่รู้จักพระเยโฮวาห์

5 ความเย่อหยิ่งของอิสราเอลก็ปรากฏเป็นพยานที่หน้าเขาแล้ว อิสราเอลและเอฟราอิมจึงจะสะดุดเพราะความชั่วช้าของตน ยูดาห์ก็จะพลอยล้มคว่ำไปกับเขาทั้งหลายด้วย

6 เขาจะไปแสวงหาพระเยโฮวาห์ด้วยนำเอาฝูงแพะแกะฝูงวัวไป แต่เขาจะหาพระองค์ไม่พบ พระองค์ทรงจากเขาไปแล้ว

7 เขาได้ทรยศต่อพระเยโฮวาห์ เพราะเขาเกิดลูกนอกรีต บัดนี้วันขึ้นค่ำจะผลาญเขาเสียพร้อมกับไร่นาของเขา

8 จงเป่าแตรทองเหลืองขนาดเล็กที่ในกิเบอาห์ จงเป่าแตรที่ในรามาห์ จงร้องตะโกนที่เบธาเวน โอ เบนยามินเอ๋ย มีคนตามหาเจ้า

9 ในวันแห่งการห้ามปรามนั้นเอฟราอิมจะรกร้าง เราได้ประกาศท่ามกลางตระกูลต่างๆของอิสราเอลให้ทราบถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

10 เจ้านายของยูดาห์ได้กลายเป็นเหมือนคนที่ย้ายหลักเขต ดังนั้นเราจะเทพระพิโรธของเราเหนือเขาให้เหมือนอย่างเทน้ำ

11 เอฟราอิมถูกบีบบังคับ และถูกขยี้ด้วยการทำโทษ เพราะเขาตั้งจิตตั้งใจที่จะติดตามบัญญัตินั้น

12 เพราะฉะนั้นเราจะเป็นเหมือนตัวมอดต่อเอฟราอิม และเป็นเหมือนสิ่งผุต่อวงศ์วานยูดาห์

13 เมื่อเอฟราอิเห็นความเจ็บป่วยของตน และยูดาห์เห็นบาดแผลของตน เอฟราอิมก็ไปหาคนอัสซีเรีย และส่งคนไปหากษัตริย์เยเร็บ แต่ท่านก็ไม่สามารถจะรักษาเจ้าหรือรักษาบาดแผลของเจ้าได้

14 เพราะเราจะเป็นเหมือนสิงโตต่อเอฟราอิม และเป็นเหมือนสิงโตหนุ่มต่อวงศ์วานของยูดาห์ เราคือเรานี่แหละ จะฉีกแล้วก็ไปเสีย เราจะลากเอาไป และใครจะช่วยก็ไม่ได้

15 เราจะกลับมายังสถานที่ของเราอีกจนกว่าเขาจะยอมรับความผิดของเขาและแสวงหาหน้าของเรา เมื่อเขารับความทุกข์ร้อน เขาจะแสวงหาเราอย่างขยันขันแข็ง

   


Many thanks to Philip Pope for the permission to use his 2003 translation of the English King James Version Bible into Thai. Here's a link to the mission's website: www.thaipope.org

Komentář

 

Lift

  
Krishna Holding Mount Govardhan, by Mola Ram (1760-1833)

The idea of "lifting" is used in a number of different ways in the Bible. In general, it means connecting with a higher spiritual state for strength or enlightenment, though as with many verbs the context makes a great deal of difference. One of the most common uses comes as people lift up their eyes, which usually means coming into a state of perceiving what is true from the Lord. Lifting a hand or a rod means wielding power, making it common in the performance of miracles. Lifting the feet means elevating the most natural, external aspects of our day-to-day lives. Lifting objects means elevating them to higher uses, or sometimes just to protect them (Noah's Ark was "lifted up" in this sense). And so forth. In the negative sense, people can lift things up -- towers or other human structures -- representing a deeper state of the love of self.

Bible

 

โฮเชยา 7

Studie

   

1 เมื่อเราจะรักษาอิสราเอลให้หาย ความชั่วช้าของเอฟราอิมก็เผยออก ทั้งการกระทำที่ชั่วร้ายของสะมาเรียก็แดงขึ้น เพราะว่าเขาทุจริต ขโมยก็หักเข้ามาข้างใน และพวกปล้นก็ปล้นอยู่ข้างนอก

2 แต่เขามิได้พิจารณาในใจว่า เราจดจำการกระทำที่ชั่วทั้งหมดของเขาได้ บัดนี้การกระทำของเขาห้อมล้อมเขาไว้แล้ว การเหล่านั้นอยู่ต่อหน้าเรา

3 เขากระทำให้กษัตริย์ชื่นชมยินดีด้วยความชั่วร้ายของเขา กระทำให้เจ้านายพอใจด้วยการมุสาของเขา

4 เขาเป็นคนล่วงประเวณีทุกคน เขาเป็นเตาอบที่ร้อน ซึ่งช่างทำขนมหยุดเร่งให้ร้อนแล้วตั้งแต่เขาจะต้องนวดแป้ง จนแป้งจะฟูขึ้น

5 ในวันฉลองกษัตริย์ของเรา พวกเจ้านายทำให้พระองค์ป่วยด้วยขวดเหล้าองุ่น กษัตริย์ทรงเหยียดพระหัตถ์ออกพร้อมกับคนขี้เยาะเย้ย

6 ใจของเขาก็ร้อนด้วยการซุ่มดักทำร้ายเหมือนเตาอบ ตลอดคืนช่างทำขนมของเขาก็หลับอยู่ พอถึงรุ่งเช้าก็พลุ่งออกมาอย่างกับเปลวเพลิง

7 ทุกคนก็ร้อนอย่างกับเตาอบ และเขมือบผู้ครอบครองทั้งหลายของเขา กษัตริย์ทั้งสิ้นของเขาก็ล้มลง แต่ไม่มีใครท่ามกลางพวกเขาที่ร้องถึงเรา

8 เอฟราอิมเอาตัวเข้าปนกับชนชาติทั้งหลาย เอฟราอิมเป็นขนมปิ้งที่มิได้พลิกกลับ

9 คนต่างด้าวก็กินแรงของเขา และเขาก็ไม่รู้ตัว ผมของเขาก็หงอกประปรายแล้ว และเขาก็ไม่รู้ตัว

10 ความเย่อหยิ่งของอิสราเอลเป็นพยานที่หน้าเขาแล้ว เขาก็ยังไม่กลับไปหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขา เขามีเรื่องทั้งหมดเช่นนี้ เขาก็มิได้แสวงหาพระองค์

11 เอฟราอิมเป็นเหมือนนกเขาโง่เขลาและไร้ความคิด ร้องเรียกอียิปต์ วิ่งไปหาอัสซีเรีย

12 เมื่อเขาไป เราจะกางข่ายของเราออกคลุมเขา เราจะดึงเขาลงมาเหมือนดักนกในอากาศ เราจะลงโทษเขาตามที่ชุมนุนชนได้ยินแล้ว

13 วิบัติแก่เขา เพราะเขาได้หลงเจิ่นไปจากเรา ความพินาศจงมีแก่เขา เพราะเขาได้ละเมิดต่อเรา แม้ว่าเราได้ไถ่เขาไว้แล้ว เขาก็ยังพูดมุสาเรื่องเรา

14 เขามิได้ร้องทุกข์ต่อเราจากใจจริงของเขาเมื่อเขาคร่ำครวญอยู่บนที่นอนของเขา เขาชุมนุมกันเพื่อขอข้าวและขอน้ำองุ่น และเขากบฏต่อเรา

15 แม้ว่าเราจะได้ฝึกและเพิ่มกำลังแขนให้เขา เขาก็ยังคิดทำร้ายต่อเรา

16 เขากลับไป แต่ไม่กลับไปหาพระองค์ผู้สูงสุด เขาเป็นคันธนูที่หลอกลวง เจ้านายของเขาจะล้มลงด้วยดาบเพราะลิ้นที่โทโสของเขา เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ให้เขาเย้ยหยันกันในแผ่นดินอียิปต์

   


Many thanks to Philip Pope for the permission to use his 2003 translation of the English King James Version Bible into Thai. Here's a link to the mission's website: www.thaipope.org