Библија

 

คร่ำครวญ 1:12

Студија

       

12 "ดูก่อน ท่านทั้งหลายที่เดินผ่านไป ท่านไม่เกิดความรู้สึกอะไรบ้างหรือ ดูเถิด จงดูซิว่ามีความทุกข์อันใดบ้างไหมที่เหมือนความทุกข์ที่มาสู่ข้าพเจ้า เป็นความทุกข์ซึ่งพระเยโฮวาห์ได้ทรงกระทำแก่ข้าพเจ้าในวันที่พระองค์ทรงกริ้วข้าพเจ้าอย่างเกรี้ยวกราดนั้น


Many thanks to Philip Pope for the permission to use his 2003 translation of the English King James Version Bible into Thai. Here's a link to the mission's website: www.thaipope.org

Из Сведенборгових дела

 

True Christian Religion # 158

Проучите овај одломак

  
/ 853  
  

158. ADDITIONAL NOTE

Since this chapter has dealt with the Holy Spirit, it is of importance to note that the Holy Spirit is nowhere named in the Old Testament Word, but only 'the Spirit of holiness' in three passages, one in the Psalms of David (Psalms 51:11), and two in Isaiah (Isaiah 63:10-11). But there are frequent references in the New Testament Word, as much in the Gospels as in the Acts of the Apostles and in their Epistles. The reason is that the Holy Spirit first existed when the Lord came into the world, for it came out of Him from the Father; for 'the Lord alone is holy' (Revelation 15:4). For this reason too the angel Gabriel speaking to Mary the mother of Jesus said 'the holy thing which will be born of you' (Luke 1:35). The reason why we read 'The Holy Spirit was not yet, because Jesus was not yet glorified' (John 7:39), although it was said earlier that the Holy Spirit filled Elizabeth (Luke 1:41) and Zechariah (Luke 1:67), as well as Simeon (Luke 2:25), was that it was the spirit of Jehovah the Father which filled them; and it was called the Holy Spirit because the Lord was already at that time in the world.

This is why nowhere in the Old Testament Word does it say that the Prophets spoke from the Holy Spirit, but from Jehovah. For everywhere we read 'Jehovah spoke to me', 'The Word from Jehovah came to me', 'Jehovah said', 'The saying of Jehovah.'

To remove all possibility of doubt I propose to quote the passages solely in Jeremiah where these expressions occur:

Jeremiah 1:4, 7, 11-14, 19;

2:1-5, 9, 19, 22, 29, 31;

3:1, 6, 10, 12, 14, 16;

4:1, 3, 9, 17, 27;

5:11, 14, 18, 22, 29;

6:6, 9, 12, 15-16, 21-22;

7:1, 3, 11, 13, 19-21;

8:1, 3, 12-13;

9:3, 7, 9, 13, 15, 17, 22, 24-25;

10:1-2, 18;

11:1, 3, 6, 9, 11, 17-18, 21-22;

12:14, 17;

13:1, 6, 9, 11-15, 25;

14:1, 10, 14-15;

15:1-3, 6, 11, 19-20;

16:1, 3, 5, 9, 14, 16;

17:5, 19-21, 24;

18:1, 5-6, 11, 13;

19:1, 3, 6, 12, 15;

20:4;

21:14, 7-8, 11-12, 14;

22:2, 5-6, 11, 16, 18, 24, 29-30;

23:2, 5, 7, 12, 15, 24, 29, 31, 38;

24:3, 5, 8;

25:1, 3, 7-9, 15, 27-29, 32;

26:1-2, 18;

27:1-2, 4, 8, 11, 16, 19, 21-22;

28:2, 12, 14, 16;

29:4, 8-9, 16, 19-21, 25, 30-32;

30:15, 8, 10-12, 17-18;

31:1-2, 7, 10, 15-17, 23, 27-28, 31-38;

32:1, 6, 14-15, 25-26, 28, 30, 36, 42, 44;

33:1-2, 4, 10-13, 17, 19-20, 23, 25;

34:1-2, 4, 8, 12-13, 22;

35:1, 13, 17-19;

36:1, 6, 27, 29-30;

37:6-7, 9;

38:2-3, 17;

39:15-18;

40:1;

42:7, 9, 15, 18-19;

43:8, 10;

44:1-2, 7, 11, 24-26, 30;

45:2, 5;

46:1, 23, 25, 28;

47:1;

48:1, 8, 12, 30, 35, 38, 40, 43-44, 47;

49:2, 5-7, 12-13, 16, 18, 26, 28, 30, 32, 35, 37-39;

50:1, 4, 10, 18, 20-21, 30-31, 33, 35, 40;

51:25, 33, 36, 39, 52, 58.

These are solely from Jeremiah. There are similar expressions in all the other Prophets, but it is never said that the Holy Spirit spoke, nor that Jehovah spoke to them by means of the Holy Spirit.

  
/ 853  
  

Thanks to the Swedenborg Society for the permission to use this translation.

Библија

 

เยเรมีย์ 4

Студија

   

1 พระเยโฮวาห์ตรัสว่า "โอ อิสราเอลเอ๋ย ถ้าเจ้าจะกลับมา เจ้าจงกลับมาหาเรา ถ้าเจ้ายอมเอาสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนไปให้พ้นสายตาของเราเสีย เจ้าก็จะไม่โลเล

2 และถ้าเจ้าปฏิญาณอย่างสัจจริง อย่างยุติธรรม และอย่างชอบธรรมว่า `ตราบใดที่พระเยโฮวาห์ทรงพระชนม์อยู่แน่' แล้วบรรดาประชาชาติจะให้พรกันในพระนามพระองค์ และเขาทั้งหลายจะอวดพระองค์"

3 เพราะว่า พระเยโฮวาห์ตรัสกับคนยูดาห์และแก่ชาวเยรูซาเล็มว่า "จงทุบดินที่ไถไว้แล้วนั้น และอย่าหว่านลงกลางหนาม

4 ดูก่อน คนยูดาห์และชาวกรุงเยรูซาเล็มเอ๋ย จงเอาตัวรับพิธีเข้าสุหนัตถวายแด่พระเยโฮวาห์ จงตัดหนังปลายหัวใจของเจ้าเสีย เกรงว่าความกริ้วของเราจะพลุ่งออกไปอย่างไฟและเผาไหม้ ไม่มีใครจะดับได้ เหตุด้วยความชั่วแห่งการกระทำทั้งหลายของเจ้า

5 จงประกาศในยูดาห์และโฆษณาในกรุงเยรูซาเล็ม ว่า `จงเป่าแตรไปทั่วแผ่นดิน จงรวมกัน จงร้องประกาศดังๆว่า มารวมกันเถิด ให้เราเข้าไปในบรรดาเมืองที่มีป้อม'

6 จงยกธงขึ้นสู่ศิโยน จงรีบหนีไปให้ปลอดภัย อย่ารออยู่ เพราะเราจะนำความร้ายมาจากทิศเหนือ และนำการทำลายใหญ่ยิ่งมา

7 สิงโตตัวนั้นได้ออกไปจากพุ่มไม้หนาทึบของมันแล้ว และผู้ทำลายเหล่าประชาชาติกำลังเดินทางมาแล้ว เขาได้ออกไปจากสถานที่ของเขาเพื่อกระทำให้แผ่นดินของเจ้ารกร้างไป หัวเมืองของเจ้าจะถูกทิ้งไว้เสียเปล่าๆปราศจากคนอาศัย

8 ด้วยเหตุนี้ เจ้าจงสวมผ้ากระสอบ จงคร่ำครวญและร้องไห้ เพราะพระพิโรธอันร้อนแรงของพระเยโฮวาห์มิได้หันกลับไปจากเรา"

9 พระเยโฮวาห์ตรัสว่า "ต่อมาในวันนั้นทั้งกษัตริย์และพวกเจ้านายจะหมดกำลังใจ บรรดาปุโรหิตจะตกตะลึงและผู้พยากรณ์ก็จะอัศจรรย์ใจ"

10 แล้วข้าพเจ้าจึงทูลว่า "ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า พระองค์ทรงล่อลวงชนชาตินี้ และกรุงเยรูซาเล็มแน่นอนทีเดียว ว่า `เจ้าทั้งหลายจะอยู่เย็นเป็นสุข' แต่ที่จริงดาบได้มาถึงชีวิตของเขาทั้งหลาย"

11 "ในครั้งนั้น เขาจะกล่าวแก่ชนชาตินี้ และแก่กรุงเยรูซาเล็มว่า `ลมร้อนจากที่สูงในถิ่นทุรกันดารพัดมาสู่บุตรสาวประชาชนของเรา ไม่ใช่จะมาฝัดหรือมาชำระ

12 กระแสลมที่แรงจะพัดมาจากที่เหล่านั้นมาสู่เรา บัดนี้เราจะกล่าวคำตัดสินต่อพวกเขา'

13 ดูเถิด เขาจะขึ้นมาเหมือนเมฆ รถรบของเขาจะเหมือนลมบ้าหมู ม้าทั้งหลายของเขาเร็วยิ่งกว่านกอินทรี วิบัติแก่เราทั้งหลาย เพราะว่าเราจะต้องพินาศ

14 กรุงเยรูซาเล็มเอ๋ย จงล้างจิตใจของเจ้าให้พ้นจากความชั่วร้าย เพื่อเจ้าจะรอดได้ ความคิดชั่วร้ายของเจ้านั้นจะสิงอยู่ในใจของเจ้านานสักเท่าใด

15 เพราะว่ามีเสียงประกาศมาจากเมืองดาน และโฆษณาความชั่วร้ายจากภูเขาเอฟราอิ

16 จงกล่าวแก่บรรดาประชาชาติ ดูเถิด จงโฆษณาแก่กรุงเยรูซาเล็มว่า บรรดาผู้ล้อมมาจากแผ่นดินไกล เขาทั้งหลายโห่ร้องเข้าใส่หัวเมืองยูดาห์

17 เขาทั้งหลายล้อมยูดาห์ไว้รอบเหมือนผู้ดูแลเฝ้านา เพราะว่ายูดาห์ได้กบฏต่อเรา" พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้แหละ

18 "วิถีและการกระทำทั้งหลายของเจ้าได้นำเรื่องนี้มาเหนือเจ้า นี่แหละเป็นผลแห่งความชั่วร้ายของเจ้า เพราะมันขมขื่น เพราะมันมาถึงจิตใจของเจ้าทีเดียว"

19 แสนระทม แสนระทม ข้าก็บิดตัวด้วยความเจ็บปวด โอ ผนังดวงใจของข้าเอ๋ย จิตใจของข้าก็ว้าวุ่น ข้าจะนิ่งอยู่ไม่ได้ เพราะจิตใจข้าได้ยินเสียงแตร เสียงปลุกของสงคราม

20 การประกาศเรื่องความหายนะไล่ติดตามความหายนะ แผ่นดินทั้งสิ้นก็ถูกทิ้งร้าง บรรดาเต็นท์ของข้าก็ถูกทำลายในฉับพลัน ม่านทั้งหลายของข้าก็สิ้นไปในบัดเดี๋ยวเดียว

21 ข้าจะต้องมองดูธงและฟังเสียงแตรนานสักเท่าใด

22 "เพราะประชาชนของเราโง่เขลา เขาทั้งหลายไม่รู้จักเรา เขาทั้งหลายเป็นลูกหลานที่โง่ทึบ เขาทั้งหลายไม่มีความเข้าใจ เขาทั้งหลายทำความชั่วเก่ง แต่เขาไม่เข้าใจที่จะทำดี"

23 ข้าพเจ้ามองดูพื้นที่โลก และดูเถิด เป็นที่ร้างและว่างเปล่า และมองดูฟ้าสวรรค์ ในนั้นก็ไม่มีความสว่าง

24 ข้าพเจ้ามองดูภูเขา ดูเถิด มันกำลังสั่นอยู่ บรรดาเนินเขาก็แกว่งไปแกว่งมา

25 ข้าพเจ้ามองดู และดูเถิด ไม่มีมนุษย์เลย นกทั้งปวงแห่งท้องอากาศได้หนีไปแล้ว

26 ข้าพเจ้ามองดู และดูเถิด เรือกสวนไร่นาก็เป็นถิ่นทุรกันดาร และหัวเมืองทั้งสิ้นก็สลักหักพังไปต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ต่อพระพิโรธอันร้อนแรงของพระองค์

27 เพราะพระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้ว่า "แผ่นดินทั้งหมดจะเป็นที่รกร้าง ถึงกระนั้นเราก็ยังมิได้กระทำให้ถึงอวสานเสียทีเดียว

28 เพราะเรื่องนี้โลกจะไว้ทุกข์ และฟ้าสวรรค์เบื้องบนจะดำมืด เพราะเราได้ลั่นวาจาแล้ว เราได้หมายใจไว้แล้ว เราจะไม่เปลี่ยนใจหรือหันกลับ

29 เมื่อได้ยินเสียงพลม้าและนักธนู ชาวเมืองทั้งหมดก็จะหนีไป เขาเข้าไปอยู่ในสุมทุมพุ่มไม้ และปีนป่ายไปท่ามกลางศิลา หัวเมืองทุกแห่งก็ถูกทอดทิ้ง และไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่ในเมืองเหล่านั้นเลย

30 เจ้าผู้ที่ถูกทิ้งร้างเอ๋ย ที่เจ้าแต่งตัวสีแดงนั้นเจ้าทำอะไรกัน และที่เจ้าประดับตัวด้วยอาภรณ์ทองคำ ที่เจ้าขยายดวงตาให้กว้างด้วยแต้มสี เออ เจ้าแต่งตัวให้งามเสียเปล่า คนรักของเจ้าจะดูหมิ่นเจ้า เขาทั้งหลายจะแสวงชีวิตของเจ้า

31 เพราะเราได้ยินเสียงเหมือนเสียงหญิงคลอดบุตรร้องแสนเจ็บปวดอย่างกับจะคลอดบุตรหัวปี เสียงร้องแห่งบุตรสาวศิโยนนั้น แทบจะขาดใจ เหยียดมือของเธอออกร้องว่า `วิบัติแก่ข้า จิตใจข้าอ่อนเปลี้ยอยู่เพราะเหตุผู้ฆ่าคน'"

   


Many thanks to Philip Pope for the permission to use his 2003 translation of the English King James Version Bible into Thai. Here's a link to the mission's website: www.thaipope.org